การดูดไขมันเพื่อลดสัดส่วนเกินในบริเวณที่ไม่ต้องการ เช่น ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง สะโพก ถือเป็นการศัลยกรรมความงามอีกรูปแบบหนึ่งที่สาว ๆ หลายคนเลือกเป็นทางออกในการลดไขมันส่วนเกินออกจากร่างกาย เพราะการออกกำลังกายและการควบคุมอาหารนั้นต้องใช้เวลานานรวมถึงต้องมีความอดทนในรอคอยให้รูปร่างเป็นอย่างที่ต้องการ
สำหรับการดูดไขมันต้นขานั้น เหมาะกับสาว ๆ ที่มีปัญหาเรื่องไขมันส่วนเกิน บางคนอ้วนลงพุง ลงต้นขา มีปัญหาก้นใหญ่สะโพกใหญ่ ใส่เสื้อผ้าอะไรก็ไม่สวย ขาดความมั่นใจไปหมด เวลาเดินแล้วรู้สึกว่าต้นขาเสียดสี หรือคนเรียกว่าขาเบียดจนทำให้ไม่กล้าที่จะใส่กางเกงรัดรูปอีกต่อไปค่ะ
นอกจากการดูดไขมันหน้าท้องที่ต้องใช้เวลาดูแลตัวเองนานประมาณ 2-3 สัปดาห์แล้ว การดูดไขมันต้นขาก็ใช้เวลาพักฟื้นหลังดูดไขมันนานไม่แพ้กัน โดยจะใช้เวลาการดูแลตัวเองอยู่ที่ 14-20 วัน ขึ้นอยู่กับการเคร่งครัดในการสวมชุดกระชับหลังดูดไขมันของคนไข้ด้วยว่าสามารถสวมใส่ได้เป็นประจำตามระยะเวลากำหนดหรือไม่ เนื่องจากหลังดูดไขมันไปแล้วคนไข้จำเป็นต้องสวมชุดกระชับไป 2-3 เดือน จนกว่าชุดกระชับจะหลวมหรือได้สัดส่วนตามที่ต้องการ
รวมถึงเรื่องของการรับประทานอาหาร ที่ต้องเปลี่ยนจากการเลือกทานของมัน ของทอด ของหวาน น้ำอัดลม หรืออาหารหมักดอง ซึ่งคนไข้ไม่ควรรับประทานเพราะจะทำให้เรากลับมาอ้วนซ้ำได้
BodyTite
นวัตกรรมการสลายไขมันจากประเทศอิสราเอล โดยเทคโนโลยี ( Radio – Frequency Assisted Liposuction ) ดูดไขมันสามารถทำงานได้รวดเร็ว สามารถ Coagulation (ห้ามเลือดไปด้วยขณะทำเพื่อลดการสูญเสียเลือด) ไม่ทำลายเส้นประสาทหรือเนื้อเยื่อรอบๆ ทำให้ไม่มีอาการพกช้ำ พร้อมทั้งกระตุ้น Collage ในชั้นใต้ผิวทำให้ผิวบริเวณที่ทำการรักษา ยกกระชับ ( Tightening ) และเนียนเรียบตึงขึ้น ไม่เกิดปัญหาผิวขรุขระเป็นโพรงในคราวเดียวกัน ดูดไขมันออกมาได้ในปริมาณมาก ไขมันกลับมาสะสมยาก