เมนู

ปัญหาริ้วรอยร่องแก้ม หน้าผาก ตีนกา ปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อยมีเหนียง เรื่องใหญ่ที่ผู้หญิงเราต่างรู้สึกว่าริ้วรอยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทำให้ความมั่นใจของเราน้อยลง ด้วยอายุมากขึ้นและมลภาวะภายนอกที่ส่งผลกับผิวพรรณ รวมถึงความเครียดต่าง ๆ ก็ส่งผลให้เราแก่ก่อนวัยได้ ซึ่งปัญหาดังกล่าวเราสามารถแก้ไขด้วย “โบท็อก”

โบท็อก ตัวช่วยสำคัญของสาวยุคใหม่

ปฏิเสธไม่ได้ว่านวัตกรรมทางการแพทย์ยุคใหม่ช่วยให้สาว ๆ มีใบหน้ากลับมาเต่งตึงและแก้ไขจุดบกพร่อง ในส่วนที่เราไม่มั่นใจ เช่น หน้าผาก โหนกแก้ม เหนียงใต้คาง ลดกราม ริ้วรอยร่องแก้ม ลิฟหน้ายกกระชับ นอกจากนี้ ประโยชน์ทางด้านอื่นของโบท็อกนั้นยังช่วยลดการเกิดเหงื่อใต้วงแขน ฝ่ามือ อีกด้วย

คุณสมบัติสารพัดประโยชน์ขนาดนี้ สาว ๆ ต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับโบท็อกก่อนตัดสินใจฉีดแก้ไขปัญหาเรื่องริ้วรอย ซึ่งควรเลือกคลินิกที่สะอาด ปลอดภัยและใช้โบท็อกที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์เท่านั้น

โบท็อกซ์คืออะไร

โบท็อก คือสารพิษ Botulinum toxin A ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่สกัดได้จากการสร้างของแบคทีเรีย “คลอสตริเดียม โบทูลินั่ม” หากคนไข้ได้รับมากเกินไปจะทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง แต่ถ้าได้รับในปริมาณน้อยๆ อย่างพอดีจะช่วยลดริ้วรอยต่าง ๆ และยกกระชับรูปหน้าให้ดูดีขึ้น

  • การทำงานของ “โบท็อก” เป็นการทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดอ่อนแรงลงชั่วคราว ทำให้เกิดการคลายตัวของกล้ามเนื้อ โดยเห็นผลลัพธ์หลังการฉีดได้ภายใน 2 – 3 วัน
  • การฉีดโบท็อกเข้ากล้ามเนื้อมัดใหญ่เช่น ลดกราม เหนียง ปรับรูปหน้า จะเห็นผลลัพท์ หลังการฉีดภายใน 7-14 วัน
  • โบท็อกจะคงอยู่กับร่างกายของเรา 7-8 เดือน จากนั้นก็จะสลายไปเอง

ทำไมฉีดโบท็อกซ์แล้วรู้สึกหน้าแข็ง

ในการฉีดโบท็อกช่วงแรกนั้น ผลของยาจะทำให้การขยับกล้ามเนื้อในบริเวณที่ฉีดมีความหนืดมากขึ้น เมื่อเวลายิ้มทำให้รู้สึกตึงลำบาก หัวเราะยาก รู้สึกหน้าแข็งเวลาแสดงอารมณ์ต่าง ๆ ซึ่งอาการทั้งหมดนี้จะหายไปเองภายใน 3-4 วันค่ะ นอกจากนี้หลังจากฉีดโบท็อก คนไข้ควรหลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง เพราะจะทำให้โบท็อกเสื่อมสภาพ ไม่เห็นผลเท่าที่ควร



Call Us Now